ISO 27001:2013
ข่าวและกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการ SMEs Pro-active
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันประเทศจีนเปิดกว้างทางเศรษฐกิจมากขึ้น ผู้บริโภคชาวจีนจำนวนไม่น้อยมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทำให้สินค้านำเข้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคในยุคของการยกระดับการบริโภคผู้ประกอบการไทยจึงจำเป็นต้องศึกษาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของผู้บริโภคจีนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อวิเคราะห์โอกาสในการเจาะตลาด และประเมินศักยภาพการแข่งขันของสินค้าไทยในสายตาของผู้บริโภคจีน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) รายงานว่า พฤติกรรมการบริโภคของผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ผู้หญิงจีนยุคใหม่ส่วนใหญ่รักอิสระและมีความต้องการบริโภคมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรายงานแนวโน้มคุณภาพชีวิตของสาวจีนปี 2020 ของศูนย์วิจัยข้อมูลและการตลาดของจีน (CBNData) ระบุว่า ผู้หญิงจีนกว่าร้อยละ 97 เป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกซื้อของในบ้าน และการบริโภคมีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 47 ล้านล้านบาท ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของผู้หญิงจีนจะอยู่ที่ 3,930 หยวน หรือประมาณ 18,700 บาท เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายในการบริโภคแล้ว พบว่า เทรนด์และพฤติกรรมการบริโภคของผู้หญิงจีนยุคใหม่ มีดังนี้
เทรนด์ที่ 1 ผู้หญิงจีนยุคใหม่ใช้จ่ายเพื่อตนเอง และให้ความสำคัญกับการบริโภคเพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนตัว
ผู้หญิงชาวจีนส่วนใหญ่เลือกใช้จ่าย หรือบริโภคเพื่อให้ตนเองมีความสุข แสวงหาชีวิตที่สะดวกสบาย โดยผลการสำรวจของบริษัทวิจัยการตลาดของจีน (iResearch) เปิดเผยว่า ผู้หญิงจีนยุคใหม่ร้อยละ 44 ให้ความสำคัญกับการบริโภคเพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนตัวและยินดีที่จะจ่ายเพื่อให้ตนเองมีความสุข อีกทั้งส่วนใหญ่เปิดแอปพลิเคชันเพื่อเลือกดูสินค้าฟุ่มเฟือยโดยใช้เวลาประมาณ 3.4 วันต่อเดือน
เทรนด์ที่ 2 ผู้หญิงจีนส่วนใหญ่ใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ
ผู้หญิงจีนร้อยละ 45 มีค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณกว่า 3,000 หยวนต่อปี หรือประมาณ 14,250 บาทต่อปี และใช้เวลาในการดูแลผิวพรรณต่อวันประมาณ 20 นาที โดยพบว่า ผู้หญิงจีนวัย Gen Z ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ดีและมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวพรรณอย่างครบวงจร และศึกษาส่วนผสมและสูตรของผลิตภัณฑ์ก่อนที่จะเลือกซื้อ ซึ่งส่วนผสมสำหรับผลิตภัณฑ์บริเวณใบหน้าที่ผู้หญิงจีนให้ความสำคัญ ได้แก่ นิโคติน กรดอะมิโน และเซราไมด์ ตามลำดับ
เทรนด์ที่ 3 ผู้หญิงจีนนิยมเลือกซื้อเครื่องแต่งกายตามดาราหรือเน็ตไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ
ผู้บริโภคกว่าร้อยละ 73 มีความยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าแฟชั่นตามดาราหรือเน็ตไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ ซึ่งสอดคล้องกับมูลค่าและจำนวนผู้บริโภคเครื่องแต่งกายที่มีลักษณะเหมือนกับดาราในปี 2020 ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่า ขณะที่เสื้อผ้าแฟชั่นแบบจีนและสินค้าที่มีทรัพย์สินทางปัญญา (IP) บนแพลตฟอร์ม Tmall ก็มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
เทรนด์ที่ 4 ผู้หญิงจีนให้ความสำคัญและตระหนักในเรื่องสุขภาพมากขึ้น
ผู้หญิงร้อยละ 50 ออกกำลังกายมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่บ้านเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ในขณะที่รูปแบบการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ โยคะ อุปกรณ์ฟิตเนส แผ่นเกมเต้น และเครื่องลู่วิ่ง ตามลำดับ
เทรนด์ที่ 5 ผู้หญิงจีนในวัยที่กำลังมีครอบครัวจะให้ความสำคัญกับตนเองเป็นพิเศษ
ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ชาวจีนมักจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลปกป้องตนเอง อาทิ ผลิตภัณฑ์ป้องกันท้องลายและแผลเป็น ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูหลังคลอด การจัดการรูปร่างหลังคลอด โดยคุณแม่ชาวจีนกว่าร้อยละ 86 ยินดีที่จะลองผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กที่ให้ความสะดวกสบายสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็กที่มีนวัตกรรมสมัยใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า อาทิ เครื่องปั้มนม 2 ข้างแบบสวมใส่ เป็นต้น
เทรนด์ที่ 6 ผู้หญิงจีนนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสผลไม้ที่มีกลิ่นและรสหวานมากขึ้น
ผู้หญิงชาวจีนเริ่มนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รสผลไม้ที่มีกลิ่นและรสหวานมากขึ้น ซึ่งรสชาติของแอลกอฮอล์ผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ พลัม พีช และส้มโอ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้หญิงจีนมักจะเลือกซื้อเครื่องดื่มดังกล่าวจากรูปลักษณ์ภายนอก และเครื่องดื่มที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ต่ำ จะได้รับความนิยมมากกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วไป
“ผู้หญิงจีนเป็นผู้บริโภคที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการมากขึ้นเรื่อยๆ มีกำลังซื้อสูง และตัดสินใจจับจ่ายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น พฤติกรรมและรูปแบบการบริโภคของผู้หญิงจีนจึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นอาจอาศัยแพลตฟอร์ม หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของผู้หญิงจีน เพื่อง่ายต่อการเจาะกลุ่มตลาดและลงทุนน้อย ซึ่งในระยะต่อมา หากผู้ประกอบการไทยเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้หญิงจีนมากขึ้นแล้ว ก็สามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือช่องทางการตลาดอื่นๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและรูปแบบการบริโภคของผู้หญิงจีนมากขึ้น” สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ในประเทศจีนนั้นมีงานแสดงสินค้าจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีหลายงาน อาทิ (1) CHINA BEAUTY EXPO ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ (2) Canton Fair ณ เมืองกวางโจว (3) China Beijing International Gifts, Premium & Houseware Exhibition ณ กรุงปักกิ่ง เป็นต้น ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือ Facebook Page : SMEs Pro-active by DITP สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0 2507 7783 หรือ 0 2507 7786 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป