ISO 27001:2013
ข่าวและกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการ SMEs Pro-active
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผย มูลค่าการนำเข้าของสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านการขยายตัวของความต้องการบริโภคภายในประเทศ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับชาวอเมริกัน คาดเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดส่งออก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ให้ข้อมูลว่า ในช่วงเดือนมีนาคม 2564 สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 85.9 แสนล้านบาท) กลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงในช่วงดังกล่าว ได้แก่ ของเล่น เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้มูลค่าการนำเข้าของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่งสูงขึ้นมาจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เป็นผลสืบเนื่องมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ปัจจุบันได้อนุมัติงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยารวมมูลค่าทั้งสิ้นราว 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 156 ล้านล้านบาท) ประกอบกับการเร่งดำเนินการแจกจ่ายวัคซีนให้กับประชาชน ทำให้หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ เริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ คาดว่าสหรัฐฯ จะเป็นประเทศแรกๆ ที่สามารถเปิดประเทศได้ภายในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ชาวอเมริกันกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยและมีความต้องการบริโภคสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการนำเข้าเพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศในแถบเอเชียรวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าในอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวอเมริกัน
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองไมอามี ยังให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกสำคัญที่สุดและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของไทย คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 15 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ดังนั้น แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ น่าจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น นอกจากนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าและเพิ่มโอกาสทางการค้า ผู้ประกอบการไทยสามารถขอรับการสนับสนุนจากโครงการ SMEs Pro-active ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า/บริการในต่างประเทศ งานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริง หรือแพลตฟอร์มของผู้จัดงานแสดงสินค้าได้อีกด้วย
งานแสดงสินค้าในสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจ อาทิ (1) SEMA Show, Las Vegas งานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 พฤศจิกายน 2564 (2) PLMA, Chicago งานแสดงสินค้าอาหาร สินค้าครัวเรือน และสินค้าสุขภาพและความงาม จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2564 (3) International Contemporary Furniture Fair, New York งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2564 และ (4) American International Toy Fair, New York งานแสดงสินค้าของเล่น จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 กุมภาพันธ์ 2565 นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์มของผู้จัดงานแสดงสินค้า (Sourcing Marketplace) ที่น่าสนใจอีกด้วยเช่นกัน อาทิ (1) WPA 365 แพลตฟอร์มออนไลน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง (2) SupplySide Network 365 แพลตฟอร์มออนไลน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเกษตร อาหาร และสินค้าเพื่อสุขภาพต่างๆ
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสามารถสมัครเข้าร่วม โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) โครงการที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ซึ่งสนับสนุนวงเงินในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) สูงสุด 200,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 สิทธิ์ และยังสนับสนุนวงเงินในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) สูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 ครั้ง ศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือ Facebook Page: SMEs Pro-active by DITP สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-507-7783 หรือ 02-507-7786