ISO 27001:2013
ข่าวและกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการ SMEs Pro-active
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในเดือนมิถุนายน 2564 มีมูลค่า 23,699.43 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 782,081.19 ล้านบาท) ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.82 สถิติใหม่สูงสุดรอบ 11 ปี โดยสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 90.48 โอกาสดีขยายการส่งออกไปยังจีนและสหรัฐอเมริกา
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว เปิดเผยว่า การควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ของจีนที่มีประสิทธิภาพส่งผลให้ความต้องการในการบริโภคภายในประเทศปรับตัวสู่ทิศทางที่ดีขึ้นทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ภาพรวมของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับเริ่มมีการเติบโตและมีแนวโน้มพัฒนาในทางที่ดีขึ้น
ภาพรวมในปี 2564 ตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 48 หรือมีมูลค่าประมาณ 346,000 ล้านหยวน (ประมาณ 1.73 ล้านล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนของการบริโภคสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจากทั่วโลกของชาวจีนสูงถึงร้อยละ 70-75 เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศได้ โดยผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ครองสัดส่วนถึงร้อยละ 70 และเลือกซื้อผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) หรือแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก ยังให้ข้อมูลว่า ความต้องการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ประกอบกับการเร่งดำเนินการแจกจ่ายวัคซีนให้กับประชาชนทำให้หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้ชาวอเมริกันกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยและมีความต้องการบริโภคสินค้าเพิ่มมากขึ้น
โดยชาวอเมริกันมักนิยมเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะและสวมใส่ได้ทุกวัน เช่น แหวนร่วมสมัย แหวนที่ใส่ซ้อนกันหลายวง เป็นต้น อีกทั้งกลุ่มเครื่องประดับโลหะอย่างทองคำก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รองลงมาคือทองคำขาวและทองคำสีชมพู นอกจากนี้ ตลาดเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษก็เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา จากข้อมูลของ Euromonitor ระบุว่าในปี 2566 ตลาดเครื่องประดับสำหรับสุภาพบุรุษจะมีการขยายตัวถึง 6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 217.8 พันล้านบาท) จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างแบรนด์หรือเจาะตลาดนี้
การจำหน่ายสินค้าในช่องทางอีคอมเมิร์ช (E-Commerce) มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ผู้ประกอบการไทยควรคำนึงถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทาง Social Media หรือผู้ทรงอิทธิพลในแต่ละแพลตฟอร์มซึ่งสามารถช่วยในเรื่องการเจาะตลาดและขยายกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างมาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก เสนอแนะเพิ่มเติม เช่นเดียวกับประเทศจีนโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันด้วยอิทธิพลของเทคโนโลยีต่างๆ ผู้บริโภคชาวจีนมักจะค้นหาข้อมูล เปรียบเทียบราคาจากอินเทอร์เน็ตก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ควรคำนึงถึงและติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ตลอดจนปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นตามกระแสความนิยมของกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่น่าสนใจ อาทิ (1) Jewelry Shanghai ณ นครเซี่ยงไฮ้, จีน (2) งาน China International Jewellery Fair ณ กรุงปักกิ่ง, จีน (3) งาน Jewellery & Gem ASIA Hong Kong ณ เมืองฮ่องกง, จีน (4) งาน JCK Las Vegas ณ เมืองลาสเวกัส, สหรัฐอเมริกา (5) งาน ASD Market Week ณ เมืองลาสเวกัส, สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ มีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ เช่น HKTDC International Sourcing Show เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าสามารถสมัครเข้าร่วม โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active) โครงการที่ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ซึ่งสนับสนุนวงเงินในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) สูงสุด 200,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 สิทธิ์ และยังสนับสนุนวงเงินในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) สูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 ครั้ง ศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการฯ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือ Facebook Page: SMEs Pro-active by DITP สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-507-7783 หรือ 02-507-7786