ISO 27001:2013
ข่าวและกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการ SMEs Pro-active
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) อนุมัติผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเสมือนจริง (Virtual Exhibition) และกิจกรรม Showroom ในช่วงงาน Fashion Week เพื่อสนับสนุน SMEs ไทยภายใต้โครงการ SMEs Pro-active ลอตแรก พร้อมทั้งขยายระยะเวลาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ถึงเดือนธันวาคม 2564
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ แนะนำงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพสูงเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการส่งออกไทยในการเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น โดยใช้โครงการ SMEs Pro-active
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยโอกาสของผู้ประกอบการส่งออกไทย ในการเข้าสู่ตลาดเครื่องสำอางฟิลิปปินส์ พร้อมแนะนำงานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริง (Virtual Exhibition) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมงานผ่านระบบออนไลน์ได้ ถึงแม้วิกฤติ Covid-19
โอกาสดีของเหล่าดีไซเนอร์ที่มีแบรนด์ของตัวเอง และต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ปรับหลักเกณฑ์โครงการ SMEs Pro-active เพิ่มกิจกรรมการเจรจาธุรกิจรูปแบบ Showroom ช่วงการจัดงาน Fashion Week ในต่างประเทศ ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสมัครได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ปี 2563 – ปัจจุบัน ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศได้รับกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยมาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการขนส่งสินค้าและการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติทั่วโลก ทำให้ มีการเลื่อนและยกเลิกการจัดงานอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2563 นั้น คงไม่มีใครคาดคิดว่า ทั้งโลกต้องหยุดชะงักไปเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ และระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ สถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมาได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง ก่อให้เกิดเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ก็ล้วนเริ่มปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ขยายหลักเกณฑ์โครงการ SMEs Pro-active เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า/บริการเสมือนจริงในต่างประเทศ (Virtual Exhibition) และกิจกรรมเจรจาธุรกิจในรูปแบบ Showroom ในช่วงการจัดงาน Fashion Week ในต่างประเทศ สมัครได้แล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ออสเตรเลียถือได้ว่าเป็นตลาดที่ผู้บริโภคใส่ใจต่อการดูแลรักษาสุขภาพและนิยมในการบริโภคสินค้าออร์แกนิคอันดับต้นๆ ของโลก เพราะชาวออสเตรเลียตระหนักถึงคุณประโยชน์และความสำคัญของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดจากสารเคมี ได้แก่ สารกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ย และสารเคมีอื่นๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดการเสื่อมสภาพของหน้าดิน ลดการสร้างมลพิษและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน รวมถึงปราศจากสารปรุงแต่งจำพวกสี กลิ่นและสารกันบูด โดยในปี พ.ศ. 2562 มูลค่าของตลาดสินค้าดังกล่าวมีประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญออสเตรเลีย ตลาดสินค้าออร์แกนิคที่เคยเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีราคาสูงและหาซื้อได้ค่อนข้างยากในอดีตกลายเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าปลีก
“เวียดนาม” ดูจะเป็นประเทศเนื้อหอมในกลุ่ม CLMV มากที่สุดในขณะนี้ จากปัจจัยบวกหลายๆ ด้าน และการควบคุมสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ที่ทำได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศในแถบนี้ ข่าวที่มักได้ยินกันบ่อยๆ ในระยะหลังมานี้ คือการย้ายฐานการผลิตของธุรกิจใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีวิกฤตการณ์โควิด-19 มาเป็นตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้เกิดแนวคิดแบบ Agile Supply Chain เพื่อให้กระบวนการผลิตมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ทำให้เกิดการลงทุนในฐานการผลิตอื่นๆ นอกจากจีน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงและแก้ปัญหาการชะงักงันของการผลิต
She-Economy ในจีนยังหนักแน่น แม้เจอวิกฤติโควิด-19 เห็นได้ว่าแม้ในช่วงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19 ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2020 ขณะที่ยอดขายของสินค้าและบริการต่างได้รับผลกระทบหดตัวลง แต่ยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบนแพลตฟอร์มในเครืออาลีบาบายังคงเพิ่มขึ้นถึง 15.7% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน